Contact and Follow me at Facebook Fan Page or Govivigo Blog


สวัสดีปลายปีโคตรคูลลลลลลลลล แพนเองคร่าเจ้าเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือกลับไปเที่ยวเชียงใหม่อีกแล้ว โอ้ย...รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เนี่ย แพนไปเชียงใหม่คราวนี้จริงๆไปแค่ 3 วัน 2 คืน เพราะลางานแค่วันเดียว ก็ปลายปีอ่างานก็จะยุ่งเยอะ วุ่นวายเป็นธรรมดาจะลาเยอะก็เกรงใจเพื่อนที่ต้องมาดูงานแทน (คนดีไปอี๊กกกกก ^o^ )

ไปรอบนี้กลับมาถึงกรุงเทพฯก็จัดแจงทำรีวิวไปซะหลายรีวิวเชียว แพนแบ่งเป็นพาร์ทๆไปอะนะ อย่างที่แพนลงไปก่อนหน้านี้ก็จะเป็น 2 บทความที่เขียนเรื่องที่พักที่แพนประทับใจ 2 ที่ สนใจคลิกดูที่พักเชียงใหม่ 2 ที่ 2 อารมณ์ของแพนได้ที่

+++++++ Good Mood House พวกเรารักเธอ (เชียงใหม่)

+++++++ เข้าสปา จิบกาแฟ นอนแผ่ริมสระ สุขไม่นิด Brique Hotel (เชียงใหม่)


เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

สำหรับบทความนี้แพนก็เจะเน้นไปที่ "แม่กำปอง" หมู่กลางเขาที่ไม่ได้มีดีแค่ไปนั่งจิบกาแฟแล้วกลับบ้าน เพราะวันนี้แพนจะพาไปเดินป่าาาาาาาาาา

แพนเริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถทัวร์ไปถึงขนส่งอาเขตเชียงใหม่ก็เกือบๆ 8 โมง เช้ารถมอไซด์แล้วก็แว๊นไปเก็บกระเป๋า อาบน้ำ กินข้าว ก่อนจะซิ่งไปแม่กำปอง จะว่าไปก็ไม่ใช่ว่าจะได้เดินป่าจริงจังอะไรเหมือนที่แพนไปบ่อยๆหรอกนะคะ ด้วยความที่ว่าแพนกว่าจะเดินทางไปถึงแม่กำปองก็บ่ายแล้วเลยทำให้ได้เดินป่าระยะสั้นแทน


แพนมีวีดีโอ รายการ "ไปก่อนตาย @แม่กำปอง,ดอยปุย" ด้วยนะคะ

ถ้าอยากเห็นการเดินทางแบบเต็มรูปแบบรวมถึงบรรยากาศที่เที่ยว ที่พัก โรงแรม ทั้งหมดทั้งมวล

คลิก เบิ่งเด้อ!!!!!!!!



การเดินทางไปแม่กำปองจากตัวเมืองเชียงใหม่

รถส่วนตัว : บ้านแม่กำปองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยผ่าน อ.สันกำแพง ระยะทาง 50 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.แม่ออน 20 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งผ่าน อ.ดอยสะเก็ด เลี้ยงขวาตรงสามแยกโป่งดิน ระยะทาง 51 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางและเทคอนกรีต สามารถ เดินทางได้สะดวกสบายทุกฤดู และสามารถใช้พาหนะรถได้ทุกชนิด

รถโดยสาร : มีรถตู้โดยสารสาธารณะ ขึ้นที่สถานีขนส่งช้างเผือก สายเชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยมี 2 รอบ เดินทางเข้าสู่หมู่บ้านแม่กำปองทุกวัน ขาไปแม่กำปอง มีรอบ 7.30น. และ 11.30น. ขากลับออกจากแม่กำปอง มีรอบ 9.20 น. และ13.20น. อัตราค่าโดยสาร ไปน้ำพุร้อนสันกำแพงคนละ 35 บาท ไปบ้านแม่กำปองคนละ 120 บาท (ต้องมี 4 คนขึ้นไป หากไม่ถึง 4 คน หารค่าโดยสารตามจำนวนคน) สอบถาม โทร 083 325 4965


ก่อนจะเดินเข้าป่าติดต่อไกด์ท้องถิ่นก่อนนะ

ถามว่าถ้าไม่มีไกด์เดินเองได้มั้ย ก็ย่อมได้ค่ะถ้าคุณรู้ทางในการเดินลัดเลาะแต่ละที่ในหมู่บ้าน ส่วนแพนเลือกที่จะจ้างไกด์ท้องถิ่น ย้ำนะคะว่า ไกด์ท้องถิ่น ทำไมต้องย้ำแบบนั้น จากการที่แพนได้พูดคุยกับพี่ดาเล่ ไกด์ท้องถิ่นที่เป็นคนนำทางแพนในครั้งนี้

พี่เค้าเล่าว่าปัจจุบันมีไกด์จากนอกหมู่บ้านพานักท่องเที่ยวมาเยอะ บางคนก็เป็นไกด์จากบริษัททัวร์ มีการพาลูกทัวร์มาเที่ยวแล้วนำเดินเข้าป่าเองก็มี ทั้งที่ความจริงแล้วทางหมู่บ้านตั้งให้คนในหมู่บ้านมีการสมัครเป็นไกด์ท้องถิ่นก็เพื่อให้คนในหมู่บ้านมีรายได้เสริมจากการปลูกชา ปลูกกาแฟ เพราะงั้นแพนเลยใช้บริการไกด์ท้องถิ่นดีกว่าจะได้เป็นการช่วยเหลือคนในหมู่บ้านด้วย ที่สำคัญราคาไม่แพงแค่ 300 บาทเอง ส่วนข้อมูลติดต่อสามารถติดต่อ

++++++++++++++++++++ พี่ดาเล่ 061 076 4381 ++++++++++++++++++++


รู้จักแม่กำปองมั้ย ?

แม่ คือ แม่น้ำ

กำปอง คือ ดอกกำปอง


เพราะเป็นหมู่บ้านที่มีธารน้ำไหลผ่านสมบูรณ์แล้วเมื่อก่อนยังมีต้นกำปองเต็มหมู่บ้านไปหมดที่นี่เลยได้ชื่อว่า "บ้านแม่กำปอง"


วัดคันธาพฤษา (แม่กำปอง)

ก่อนที่แพนจะได้เริ่มต้นเดินเข้าป่าก็มาจอดรถมอไซด์ที่วัดแม่กำปองค่ะ เลยได้ถือโอกาสไหว้พระขอพรซะเลยที่นี่เค้าไม่เก็บค่าจอดรถหรอกนะคะแต่เราก็ควรหย่อนตู้บริจาคเนาะเอาตามกำลังศรัทธา สำหรับที่วัดแม่กำปองที่นี่จะเป็นวัดไม่ใหญ่มากค่ะยังคงความเป็นวัดชุมชน มีป้ายชื่อวัดเล็กๆแปะอยู่ด้านหน้า

พี่ดาเล่บอกให้แพนมารออยู่ตรงวัดเดี๋ยวพี่เค้าจะเดินมาหาระหว่างนั้นแพนเลยถือโอกาศไหว้พระทำบุญเลย แพนชอบช่อดอกไม้ของที่นี่มากเลยอะเค้าดูมีความใส่ใจที่จะทำเป็นช่อพับจีบใส่ดอกไม้ ธูปเทียนสวยดีค่ะ

Advertisementshopee

อุโบสถกลางน้ำ

ถ้าเดินเลยตัววัดเข้าไปด้านหลังจะพบกับทางเดินลงไปด้านล่างจะเห็น "อุโบสถกลางน้ำ" ค่ะ แพนก็เดินลงไปตามทางเพื่อเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปด้านในค่ะ

สำหรับอุโบสถรูปแบบนี้ในภาคเหนือหลงเหลือเพียง 2 แห่งเท่านั้น คือวัดที่อำเภอแม่แจ่ม และที่วัดแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้นี่เอง



เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นแม่กำปอง

มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ค่ะ แพนตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาเดินป่าที่นี่แหละค่ะ เป็นเส้นทางที่ไม่ไกลมากมีให้เลือก 2 ระยะทางทั้งแบบใกล้และแบบไกล

เดินป่าระยะไกล เดินลัดเลาะแนวป่าขึ้นไป จะได้ขึ้นไปชมความงามของกิ่วฝิ่น แต่ถ้าใครจะเลือกเดินแบบนี้ต้องมาแต่เช้าเอลยค่ะเพราะใช้เวลาพอสมควรหรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่นอนค้างคืนในหมุ่บ้าน ทีแรกแพนกะไปเดินระยะไกลนี่แหละแต่กว่าจะถึงหมู่บ้านก็บ่ายแล้วเลยได้เดินแค่ระยะใกล้แทน

เดินป่าระยะใกล้ เพราะไปถึงช้าเลยได้เดินแค่ระยะใกล้แทน ใช้เวลาประมาณ 2 -3 ชม.แล้วแต่ความเอ้อระเหยของเราค่ะ ฮร่า สำหรับการเดินก็จะเป็นการเดินเข้าป่ารอบหมู่บ้านมาจนถึงร้านชมนกชมไม้ แล้วเดินต่อไปจนถึงน้ำตกแม่กำปอง แล้วก็เดินผ่านป่ามาอีก โผล่อีกทีในตัวหมู่บ้านค่ะ

ถามว่าป่าที่แม่กำปองเนี่ยสามารถเดินเข้าไปเองได้มั้ยโดยไม่ต้องจ้างไกด์ ก็ได้นะคะเดินไปตามทางที่เค้าทำไว้สำหรับเดินเข้าสวน เข้าป่า เก็บเห็ด เก็บหญ้า แต่การที่เรามีไกด์ท้องถิ่นไปด้วย เราก็จะมีคนคอยเล่าประวัติหมู่บ้าน คอยบอกว่าต้นนั้นชื่ออะไร ต้นนี้มีที่มายังไง อย่างเรื่องของการทำสวนของชาวแม่กำปองจะเป็นการปลูกพืชแทรกกับป่า เพราะฉะนั้นตอนเดินเข้าไปในป่าก็จะได้พบเห็นต้นกาแฟอยู่ตลอดทาง

Advertisement


"ต้นตุ้ม" ไม้ใหญ่ไฮไลท์ของป่านี้

พอเดินเข้ามาได้ซักระยะนึงพี่ดาเล่เค้าก็ชี้ให้ดูต้นไม้คู่นึง เรียกว่าต้นตุ้มเพราะลักษณะดอกของมันจะเป็นเหมือนตุ้มหู พี่ดาเล่บอกว่าต้นนี้เป็นต้นไม้เก่าแก่ค่ะอยู่มาหลายปีแล้วปัจจุบันต้องใช้คนโอบรอบต้นไม่ถึง 15 คนเลยนะคะถึงรอบต้น

เพราะเป็นไม้ใหญ่ก็ไม่แปลกที่จะเป็นแหล่งพักพิงของเหล่าสัตว์ตัวจิ๋ว แพนเห็นใยแมงมุมเห็นรู เห็นโพรงสัตว์แถวต้นนี้เยอะแยะเลย นี่ถ้าปีนขึ้นไปบนยอดได้แพนว่าเราคงได้เจอแก๊งนกนานาชนิดเลยมั้ง

เดินออกมาจากต้นตุ้มทั้งคู่ก็จะเข้าป่าลึกไปอีก ระหว่างทางเราก็จะได้ความรู้จากพี่ดาเล่ถึงพืชต่างๆในป่านี้ อย่างต้นไผ่ด้านล่างนี่เรียกว่า "ไผ่ป่า" เป็นไผ่ที่ใช้สำหรับทำเครื่องจักรสานต่างๆค่ะ หลักๆของคนในหมู่บ้านคือเอามาจักรสานเป็นตะกร้าลวกไข่สำหรับใช้ที่บ่อน้ำพุร้อนสันกำแพงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านแม่กำปองมากนัก

แล้วก็มีต้นกล้วป่า ต้นหม่อน ต้นเมี่ยง ต้นชา บลาๆๆๆๆๆ ก็ได้ความรู้เยอะดีค่ะ

นอกจากต้นไม้หลายสายพันธุ์แล้วก็จะได้เจอสัตว์เจอแมลงคละๆกันไป


ร้านชมนกชมไม้

เดินพ้นจากป่ามาจะเจอกับถนนหลักของหมู่บ้านแล้วก็มาโผล่ที่ร้านกาแฟยอดฮิต "ร้านชมชมไม้" เป็นร้านที่คนเค้ามาถ่ายรูปกันเยอะๆนั่นแหละค่ะ แต่แพนเตือนก่อนนะถ้ามาวันหยุดนี่ต้องทำใจเลยล่ะ คนจะเยอะเป็นพิเศษ ฮร่า

ร้านแห่งนี้มีจุดเด่นตรงที่สามารถดูวิวหมู่บ้านได้จากมุมสูงค่ะ เราสามารถนั่งเพลินๆในร้านมองออกมานอกระเบียงแล้วชมนกชมไม้ได้อย่างชื่อร้านเลย แต่.................จะเพลินกว่าถ้ามาวันธรรมดา


น้ำตกแม่กำปอง

จากร้านชมนกชมไม้พี่ดพาเล่ก็พาแพนเดินตามทางถนนมาโผล่น้ำตกแม่กำปองค่ะ แพนโชคดีมากเลยรู้มั้ยไปช่วงน้ำเยอะ น้ำตกเลยสวยเชียว พี่ดาเล่บอกว่าถ้าช่วงอากาศร้อนก็จะมีคนมาเล่นน้ำกันเพียบเลย แต่พอดีว่าช่วงที่แพนไปมันอากาศค่อนข้างเย็น น้ำก็เย็นเจี๊ยบเชียว ไม่เล่นแน่นอนค่ะ

ไหนๆมาก็จับลูกชายมาถ่ายรูปหน่อย ฮร่า ในส่วนของน้ำตกด้านข้างจะมีบันไดเดินขึ้นไปค่ะ เราสามารถเดินไปชมน้ำตกด้านบนได้เหใือนกัน ถ้าใครขยันเดินหน่อยก็ขึ้นไปเนาะจะได้รูปสวยๆเพิ่มด้วย

กาลครั้งหนึ่ง ณ แม่กำปอง

เขยิบมาด้านหน้าทางเข้าน้ำตกหน่อยดีกว่า เพราะตรงนี้มีร้านกาแฟอีกร้านที่น่ารักดี ด้วยความที่เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศริมน้ำชิลๆ เลยทำให้การนั่งจิบชา จิบกาแฟที่ร้านนี้มันฟินเว่อร์ "กาลครั้งหนึ่ง ณ แม่กำปอง"


เดินกลับ

ไปแวะพักอยู่น้ำตกซะนานเชียว แล้วก็ได้เวลาเดินกลับค่ะ จริงๆจะเดินตามทางถนนก็ได้นพแต่บอกแล้วว่าทริปจะเน้นเข้าป่า(ถึงจะเข้าบ่อยแล้วก็เถอะ) พี่ดาเล่พาเดินลัดเลาะป่ามาเจอธารน้ำตกเล็กๆอีกสายนึง ตามทางอุดมสมบูรณ์มาก มีแต่สีเขียวๆของใบไม้กับเสียงสายน้ำคลอๆ ไอ้เรามันก็สายกรีนอยู๋แล้ว แบบนี้รักโคตรๆเลยล่ะ


เดินตามพี่ดาเล่ๆ ไปๆมาๆก็ออกมาโผล่ในตัวหมู่บ้านเฉยเลย งงดีเหมือนกัน ฮร่า สุดท้ายก็มาจบที่วัดแม่กำปองเหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นการเดินอ้อมหมู่บ้านที่ทำให้ทำให้เรารัหมู่บ้านนี้ได้แบบไม่รู้ตัวเลย แพนจ่ายเงินค่านำทางไป 300 บาท คือมันถูกมากกกกกก พอหารกันกับเพื่อนก็ตกคนละไม่กี่บาทเอง ใครเป็นสายป่าสายเขา ชอบธรรมชาติ กรีนเลิฟเว่อร์แบบแพนอย่าลืมมาลองเดินป่าแม่กำปองนะคะ


เดินเล่นในหมู่บ้านกัน

พอโบกมือลาพี่ดาเล่แพนก็มาเดินเล่นในหมู่บ้านต่อ เดินไปเดินมาก็เจอแก๊งเจ้าถิ่นซะงั้น เดินตามขอขนมกินเฉยเลย

แล้วพอเราไม่มีของกินให้นางก็เดินตามคร่าาาาาา แนะๆ มีการมองกล้องด้วย ฮร่าาาาาา แพนเดินถ่ายรูปเล่นดูบ้านแต่ละหลังมีความวินเทจเว่อร์ๆ คนที่หมู่บ้านนี้ไม่ใช่ชาวเขานะคะ เป็นคนเมืองเพราะฉะนั้นก็จะมีการใช้ภาษาไทยและเขียนภาษาไทย การก่อสร้างบ้านเรือนก็จะออกแนวคนไทยหน่อยไม่ได้ม้งจ๋าๆอะไรมาก

มาแม่กำปองถ้าอยากได้ของฝากเก๋ๆแพนแนะนำโปสการ์ดเลยค่ะ เป็นภาพถ่ายในมู่บ้านมีหลายรูปให้เลือกเลย เขียนเสร็จก็หย่อนตู้หน่าร้านแล้วก็รอรับโปสการ์ดที่บ้านเลยค่ะ


หาไรกินกันเถอะ

เดินจนทั่วดูบ้านเรือนไปเรื่อยถ้าแพนจะไม่พูดถึงของกินก็จะแปลกๆไปหน่อย หิวก็ต้องกินถูกมั้ย แต่ก่อนจะเอาของคาวเข้าท้องแพนอยากโฆษณาสิ่งนี้มากๆเลยล่ะ ด้วยความที่หมู่บ้านแม่กำปองขึ้นมากเรื่องการปลูกกาแฟ มาถึงนี่จึงห้ามพลาดกาแฟหอมกรุ่นแล้วที่แพนแนะนำคือด้านล่างนี้เลยค่ะ "กาแฟหม้อดิน" แพนว่ามันดูบ้านๆดีนะ ได้ฟิลกว่าตามร้านแกแฟอีก ต้องไปลองค่ะ

นอกจากกาแฟถ้ามาเดินบริเวณตลาดก็จะเจออาหารเหลืออื่นๆอย่างพวกไข่ป่าม ใส้อั่ว ข้าวซอยอะไรแบบน้้น จะบอกว่าใส้อั่วไม้ละ 5 บาทอร่อยมากกกก ต้องลองๆ


มาเชียงใหม่ก็ต้องกินข้าวซอยถูกมั้ย วันนี้แพนขอนำเสนอออออออออออออ ข้าวซอยโคตรอร่อย บรรยากาศก็เก๋ไก๋นั่งกินริมน้ำ

ชื่อร้านอะไรไม่รู้อ่า ลืม! แต่หน้าตาร้านเป็นแบบนี้นะคะ ดูจากด้านนอกก็เหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไปแต่พอเข้าไปด้านในจะเจอบันไดเป็นทางลงไปมีที่นั่งด้านล่างติดแม่น้ำด้วย หรือใครจะนั่งกินด้านบนก็ได้ เนี่ยแพนชอบตรงนี้แหละ

กินอิ่มแล้วก็แว๊นรถเข้าเมืองกันค่ะ ดูนาฬิกาก็เย็นมากแล้วขี่มอไซด์ไปอีกชั่วโมงนึงกว่าจะถึงที่พักก็ต้องรีบล่ะค่ะหน้าหนาวยิ่งมืดเร็วอยู๋ถ้าดึกกว่านี้จะขี่รถลำบากกัน

หมดหนึ่งวันกับแม่กำปองหมู่บ้านที่เป็นสวรรค์ของนักชิมกาแฟ กับผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์โคตรๆ และที่สำคัญคือคนในหมู่บ้านนี้น่ารักมาก ไว้แพนจะกลับมาใหม่ถ้ามีโอกาสนะยูว ไปแล้ว บาย....

*ภาพทั้งหมดในบทความนี้มาจากแพนถ่ายเองด้วยและเพื่อนด้วย แต๊งกิ๊วธนาคิมกับน้องโน๊ต และเพื่อนร่วมทริปที่ช่วยถ่ายรูปบ้างช่วยถือกล้องวีดีโอบ้างช่วยพูดมากบ้าง นางฟารดา กับหมูโอ๊ตตตตตตตตตต https://www.facebook.com/muoatphoto/

ความคิดเห็น