สวัสดีค่าา นี่เป็นกระทู้รีวิวที่เที่ยว กระทู้ที่ 2


ลังเลนานมาก จะเขียนดีมั้ย เขียนแล้วใครจะอ่าน

แต่ไปไหนมาไหน อาศัยรีวิวบ่อย ๆ

เอาวะ ฮึบบ เขียนก็เขียน



กระโดดขึ้นเรือตามไป เกาะสีชัง ด้วยกันนะคะ






++ 23 กรกฎาคม 2558 ++



เรากับเพื่อนนัดกันที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตอน 8 โมง ถือว่าค่อนข้างสายนะสำหรับทริปวันเดียว

ตั้งใจจะไปขึ้นรถตู้เมืองท่ามหานคร ข้างๆโชว์รูม ซูซูกิ (ตามที่อ่านมาหลายรีวิว)

แต่ !! ด้วยความขี้เกียจ ระหว่างทางเดินเจอรถตู้ของ simple van ก็เกิดอาการใจง่าย ไปด้วยค่ะพี่

รถจะออกพอดี เอาหน่าคันไหนก็ไปถึงเหมือนกัน



อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดเริ่มต้นของการเดินทาง



คันที่ไปจะเขียนว่า ไปศรีราชา (ออกทุก 30 นาที) แต่ถ้าให้สบายใจ บอกก่อนขึ้นเลย จะไปไหน



บนรถมีสมาชิก 7 คน เหลือที่นั่งให้นอนกลิ้ง



Advertisementshopee

กระเป๋าพร้อม หมวกพร้อม คนยิ่งกว่าพร้อม



รถออก 8.10 ประมาณ 10 โมง ก็ถึงแล้ว
ตามรีวิวบอกให้ลงโรบินสันศรีราชา แต่ของเราลุงคนขับส่งที่แยกวังหิน
ลุงบอกว่า ท่าเรือเกาะลอย(ท่าที่ข้ามไปเกาะสีชัง) ใกล้นิดเดียว เดินได้
เดินไปเห็นเลย เราก็เชื่อลุง

ลงมาจากรถตู้ แดดแรงมาก ลุงบอกว่านิดเดียว เราจะสู้ !!



ตอนนี้ยังคึกอยู่ เข้าใจว่าเห็นหอนาฬิกา ก็ถึงแล้ว อีกนิดเดียว



หันหลังกลับไปดู ทางที่เดินมา ไกลเหมือนกัน



หอนาฬิกาแล้ว แต่ นี่แค่สวนสาธารณะเกาะลอย จะไปท่าเรือต้องเดินต่อ (อ่าวลุง ไหนบอกใกล้)



Advertisement

มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ต้องไปต่อ แต่ขอบ่นหน่อยเถอะ



ก็มีคิดนะ ที่ไกลอาจเพราะอากาศร้อน แดดแรง ถ้าเย็นๆ ก็คงใกล้ล่ะมั้ง



เริ่มเห็นทางไปท่าเรือแล้ว ตรงนี้จะเป็นที่จอดรถ



น้ำตาจะไหล ถึงที่ขายตั๋วเรือแล้ว ใช้เวลาเดินร่วม 20 นาที



เรือออกทุกชั่วโมง ออกตรงเวลามาก



ตั๋วราคา 50 บาท 11 นาฬิกา เรือออกจากฝั่ง สีชังจ๋า เราจะเจอกันละนะ



บนเรือ คนค่อนข้างเยอะ เต็มเกือบทุกที่นั่ง






++ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็ถึงเกาะสีชัง ++



ความตั้งใจแรก (อีกแล้ว) เราจะขี่จักรยาน เที่ยวเกาะ รับลมเย็นๆ

ตัดมาความจริง แดดแรงขนาดนี้ ยอมแพ้ค่ะ พอลงมาจากเรือ

รู้สึกได้รับการต้อนรับ (เกินไป) จากชาวสีชัง ไม่ว่าจะเป็น



'น้องๆ มอไซค์ มั้ย'

'น้องๆ สกายแลป มั้ย '



.. หลังจากละทิ้งจักรยาน เป้าหมายต่อมาเราจะนั่งสกายแลปอยู่แล้ว เพราะกับเพื่อนเราขับมอไซค์ไม่เป็น

แต่ว่า ไม่ต้องเดินตามขนาดนี้ก็ได้ค่ะ หนูกลัว (TT) ความประทับใจติดลบ

พอเราพูดไปว่า ขับมอไซค์ไม่เป็น เท่านั้นแหละเดินกลับไปหมด

เหลือแค่คุณลุงหนึ่งคน เสนอสกายแลป เล่าว่าจะพาไปไหนบ้าง

มี 4 ที่ ลุงจะพาไป เสมือนเป็นไกด์ท้องถิ่น

จะรออะไรล่ะ ไปโลดดดด ..



บรรยากาศ เหยียบย่างลงบนเกาะสีชัง (ใช้คำฟุ่มเฟือยเพื่อ)



มอเตอร์ไซค์ จอดรอคนมาเช่า



สกายแลป นำเที่ยว ก็มีให้เลือกหลากหลายคัน



สกายแลปอาจเป็นญาติกับรถตุ๊กตุ๊ก แต่ว่าใหญ่กว่า สบายกว่า ลุงเล่าว่าเคยรับมากสุด 11 คน



เราโชคดี ที่เจอลุงคนขับใจดี ชวนคุย นู่นนี่นั่น จากติดลบเมื่อกี้ ค่อยๆบวกเพิ่ม



ถ้าใครชอบนั่งตุ๊กตุ๊ก อยากให้ลองมานั่งสกายแลป ฟินมากจริงๆ

++ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ++

นี่คือที่แรกในเส้นทางสกายแลปค่ะ อยู่ทางด้านเหนือของเกาะ
สถาปัตยกรรมเน้นไปทางจีน เนื่องจากว่าที่นี่อยู่สูง มองไปทางไหนก็จะเห็นวิวเกาะ

ขึ้นไป ค่อนข้างสูงเหมือนกัน



นั่นคืออะไร รถลากใช่มั้ย ไม่เคยเห็นมาก่อน



ขอเข้าไปมองใกล้ ๆ



เดินไปครึ่งทางก็เหนื่อยแล้ว ขอมองวิวเป็นกำลังใจ กัดฟันแล้วเดินต่อ



พอมาอยู่บนนี้ คนกลายเป็นมด รถยนต์เหมือนของเล่น



จะไม่ไปไหนแล้ว ขอดูวิวตรงนี้แหละ ก็คนมันชอบนี่ (เห้ยย เค้าให้ขึ้นมาไหว้พระนะแก)



แต่เพื่อนจะยอมหรอ ไม่มีทาง ยังไงแกก็ต้องเข้าไปไหว้



ตอนนี้เริ่มเจอนักท่องเที่ยว ที่นั่งเรือลำเดียวกันมา คิดว่าโปรแกรมเที่ยวคงเหมือนกัน



ภายในนี้มีทั้งพระไทย พระจีน เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์



ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่ จะอยู่ด้านใน ถัดจากพระพุทธรูปประจำวัน



เมื่อเราสามคนได้สักการะกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินออกมาตามทาง



ระหว่างทางเราเจอทางไป วิหารพระสังกัจจายน์ จึงเดินขึ้นไปต่อ



เมื่อเดินขึ้นไปอีก ก็เจอรูปปั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)



ถึงจุดนี้เราสังเกตุว่าไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนขึ้นมาเลย ส่วนมากขึ้นมาแค่ตรงถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้วก็กลับ



ตรงจุดนี้ มีบรรไดให้ขึ้นไปต่ออีก ลุงเจ้าหน้าที่บอกว่า ข้างบนมี มณฑปรอยพระพุทธบาท และจุดชมวิว


เริ่มมีการเถียงกันระหว่างเพื่อนว่า จะขึ้นหรือจะลง



จำได้ว่าเดินขึ้นไกลมาก แวะพักกันหลายรอบ กว่าจะถึง



เห็นจุดหมายข้างบนนั้นมั้ย จะถึงละนะ



แทบหมดแรง แต่ก็คุ้มกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า



พอมาทำรีวิว พึ่งรู้ตัวว่าเราไม่ได้ไหว้รอยพระพุทธบาท เราเอาแต่ตื่นเต้นที่ขึ้นมาถึง แล้วก็ลงไป (ช๊อคมาก)



เราอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง ลงมาลุงหนุ่มลับแล (ชื่อคนขับ) นั่งรออยู่ เอาล่ะ ไปที่ต่อไปกัน !!

++ ช่องเขาขาด ++

ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของเกาะ ส่วนมากนักท่องเที่ยวอย่างเรา
จะมาชมพระอาทิตย์ตก เรียกว่าเป็น แลนด์มาร์ค ที่ต้องมาให้ได้ค่ะ

สะพานนี้มีชื่อว่า สะพานวชิรวุทธ



ตอนเดินไปสุดสะพาน จะเป็นลานหิน หินคมมาก เราพลาดจับไป บาดมือเป็นรอยแดงเลย



จุดยอดฮิต เข้าอากู๋ (google) ทีไรเป็นต้องเจอมุมนี้



นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้ว ยังเป็นจุดตกปลาด้วยค่ะ



เราชอบที่นี่มาก อยู่เพลิน เดินไปเปิดเพลงไป คุยเล่นกับเพื่อน



หันหลังกลับไป นี่เราเดินมาไกลขนาดนี้เลยหรอ



ช่องเขาขาดเป็นที่ที่พิเศษมาก รูปที่ถ่ายจากจุดนี้เป็นรูปที่เราชอบมากที่สุดในทริปนี้



สีฟ้าๆของทะเล ตัดกับหินสีดำบริเวณนี้ ใครชอบถ่ายรูป ห้ามพลาด (ย้ำขนาดนี้แสดงว่าดีจริง)



เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง อยากอยู่ต่อแต่เดี๋ยวไม่มีเวลาให้ที่อื่น

++ พระจุฑาธุชราชฐาน ++

อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนไปถึง
ลุงหนุ่มลับแลบอกว่า จะนอนรอ คือวังนี้ใหญ่มาก
เดินกันสนุกสนานเลย สารภาพว่าเดินไม่ครบ

นี่คือแผนที่ในวังค่ะ เดินเข้ามาจะมีจุดแจกอยู่ตรงป้อม หยิบได้เลย สถานที่ในนี้ค่อนข้างเยอะ


จะได้เดินได้ถูก



เข้ามาไม่รู้จะไปไหนก่อนดี แต่เรามาวังร.5 ก็ต้องไป พลับพลาร.5 เป็นดับอับแรก



ภายในนี้ร่มรื่นมาก ต้นไม้เยอะ สบายตา



เดินไปเรื่อย ไม่ได้เจาะจงว่าจะไปจุดไหน



มาถึงตรงนี้ เริ่มเจอนักท่องเที่ยวบ้างแล้ว หลังจากเห็นหน้ากันแค่ 3 คนมาครึ่งวัน



เรากำลังเดินหาเรือนวัฒนา



เราอาศัยป้ายบอกทาง ถึงแนะนำว่าให้หยิบแผนที่ เรากับเพื่อนเดินกันมั่วมาก 555



ภายในเรือนเป็นสถานที่จัดนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชัง



พิพิธภัณฑ์ในพระจุฑาธุชราชฐานเปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น.



มีตั้ง 4 แยก ไปไหนต่อดี



ไปพระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางค์นิมิตร ละกัน



แต่ละที่ถึงไม่ได้ห่างกันมาก แต่ก็ไม่ได้ใกล้มากเหมือนกัน



พระอุโบสถสร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เน้นสีขาวดำ



เราว่าเราถ่ายรูปข้างในมา แต่ไฟล์หายไปไหนไม่รู้ (TT)



ตอนเดินออกมา มีทางไปจุดชมวิว ต้องไปซักหน่อย (เป็นคนเซ้นซิทีฟเกี่ยวกับวิวทิวทัศน์)



เดินไปพอสมควรเหมือนกัน จะเห็นหอไม้ เป็นบันไดขึ้นไป วิวที่เห็นฝั่งนั้นเหมือนฝนจะตกนะ



นั่งชื่นชมบรรยากาศ ฝั่งนึงเห็นฟ้า อีกฝั่งเห็นต้นไม้



แล้วเราก็ลงมา ที่ สะพานอัษฎางค์ เห็นแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Timeline จดหมาย-ความทรงจำ ที่มาถ่ายกันที่นี่



สะพานไม้ ตอนนี้ไม่มีแดดเลย ฟ้าครึ้ม แสงหายไปหมด



เชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีอารมณ์กว่าจะได้รูป กระโดด รูปนึง โดดกันไปห้าหกรอบ



แทนรู้มั้ย จูนมารอแทนที่ท่าน้ำทุกวันเลย (ผิดเรื่อง)



เรือนเขียว ไม่อยากให้พลาดกัน เพราะเราพลาด ว่าจะเดินไปแต่สุดท้ายก็ลืม


++ หาดถ้ำพัง ++

เดินทางมาถึงที่สุดท้ายของทริปแล้ว เราอยู่จุดนี้ประมาณ 30 นาที
ตอนที่ถึงสี่โมงกว่า เราจะกลับเรือรอบ 5 โมงเย็น เสียดายมาก

หาดนี้ดูคึกคักที่สุด ใน 4 ที่ที่ไปมา



มีรถสกายแลปจอดเต็มไปหมด



ผ้าใบวันธรรมดาฟรี แต่วันเสาร์-อาทิตย์ คิดตัวละ 10 บาท



รูปนี้เห็นชัดว่า ข้างๆทรายจะมีหิน อย่างที่บอกไปหินคมมาก มีป้ายปักว่าอันตราย



เราสามคนคุยกันว่า ทะเลที่นี่เฉยๆ ไม่สวยมาก หรือเพราะเกาะนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสวยกว่าเลยดึงดูดมากกว่า


ความเห็นส่วนตัวนะคะ !! อย่าไปยึดติด



อยากอยู่ที่นี่ นานกว่านี้ แต่ หมดเวลาสนุกแล้วสิ !!



5 ชั่วโมง บนเกาะสีชังของเรา ก็จบแล้ว เราว่าถ้าใครจะไป แนะนำควรออกเช้ากว่านี้


ถ้าอยากเที่ยวแบบไม่รีบ เที่ยวให้ครบ เรายังเที่ยวไม่หมดเลย

มีแอบเสียดายบ้างเหมือนกัน ส่วนอาหาร เรากับเพื่อนซื้อขนมปังนั่งกินบนเรือ

เลยไม่ได้แวะร้านข้าว เอาแต่เที่ยวมากกว่า ก็ประมาณนี้แหละค่ะ (:

จบทริปแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้ามีโอกาสเจอกันใหม่ทริปหน้าค่า






เล่าสู่กันฟัง



เรากลับมาขึ้นเรือรอบ 5 โมงเย็น ถึงฝั่งก็เกือบ 6 โมง เรากับเพื่อนโทรหารถตู้เจ้าเดิม

เค้าให้ไปที่ศูนย์เลย ก็นั่งรถตุ๊ก ๆ แต่พอขึ้นรถตู้กลับ เค้าขับผ่านสวนสาธารณะเกาะลอยด้วย

ถ้าใครไป ลองถามก่อนเลย แวะมารับได้มั้ย จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา แล้วก็ขากลับคันที่เรานั่ง

แวะหนองมนนานพอสมควร ให้เผื่อเวลาไว้หน่อย (แต่เราไม่รู้ว่าเป็นทุกคันมั้ย)



เราเคยอ่านกระทู้เจอว่า สกายแลป พาไปแต่ละจุด พอเสร็จให้โทรหา แล้วเค้าค่อยมารับ ทำให้เสียเวลา

เราคุยกับลุงคนขับ เค้าบอกว่า ถ้าวันธรรมดาไม่มีคน เค้าจะอยู่กับเราตลอด

แต่ว่าวันหยุด ก็ตามนั้น เสร็จแล้วให้โทรเรียก (ขอบคุณนะคะที่ไม่ทิ้งหนูไว้กลางทาง)






สรุปค่าใช้จ่าย



รถตู้ไป-กลับ 200 บาท

ค่าเรือไป-กลับ 100 บาท

ค่าสกายแลป 250 บาท (/3)

ค่ารถตุ๊กๆ 50 บาท (/3)


รวม 400 บาท



(เราพกน้ำกับขนมปังมาจากบ้าน)





กระทู้แรก : ไปโพธารามกัน

http://pantip.com/topic/33941342

ความคิดเห็น