ฮอกไกโด ในความทรงจำ ....
บันทึกการเดินทาง 11วัน 9 คืน 7 เมืองใน Hokkaido...Sapporo,Otaru,Asahikawa,Furano,Tomakomai,Noboribetsi,Hakodate...
3 เดือน สำหรับการเตรียมตัว นับว่าเหมาะสมยิ่ง การเดินทางครั้งนี้เราได้เรียนรู้หลายอย่าง...สิ่งสำคัญคือ เรามีความภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทำ
นั่นคือ เรามีเป้าหมาย และเราก็ทำได้ดั่งที่ตั้งใจไว้ .... เราไม่รู้หนทางข้างหน้าต้องพบเจออะไรบ้าง...
แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นเมืองที่ปลอดภัย ไปง่าย แต่เราผู้หญิงตัวเล็กๆ 2 คนต้องเผชิญกับสภาพอากาศติดลบ ที่เราไม่เคยสัมผัส เราก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อย....
ฮอกไกโดเป็นเมืองตอนเหนือของญี่ปุ่น ที่ สะอาด น่ารัก และมีเทคโนโลยีต่างๆรวมถึง การคมนาคมที่ดีเลิศ ตารางเวลาที่นับเป็นนาที ที่มีความแม่นยำ เป๊ะ อย่างน่าทึ่ง ทั้งรถไฟJR รถไฟฟ้าใต้ดิน รถราง รถบัส และรถแทกซี่ ช่วยให้การเดินทางของเราเป็นไปอย่างง่ายดาย แต่เราก็เดินเยอะมากที่สุด .... ขาลาก
สิ่งที่เราสัมผัสได้นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้คือ ความเป็นมิตรของผู้คน.... คุณลุงที่พาเราเดินไปชี้จุดที่พัก กลุ่มแม่บ้านที่อบอุ่นและโอบกอดเรา เหมือนเจอคนรู้จัก คุณยายที่พยายามอธิบายเส้นทางทั้งน้ำมูกไหลย้อย กลางถนน และแอร์กราว ที่ช่วยเหลือให้คำแนะนำเรื่องน้ำหนักกระเป๋าซึ่งทำเอาเราหลับไม่ลงในคืนสุดท้ายก่อนกลับ เสียดายโรงแรมมาก ไฮโซดีงาม... และแม้ภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไหร่นักในเมืองนี้ แต่เราก็สื่อสารกันเข้าใจ การพบเจอผู้คนคือเสน่ห์ของการเดินทางครั้งนี้ เรามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแม้ว่าเราจะล้มกลิ้งลื่นกลางหิมะ ล้มลุกคลุกคลานเพราะลากกระเป๋าหนัก กลางสถานี JR Sapporo.....แม้ว่าเราจะเหน็บหนาวจนสั่น รองเท้ากัดจนปวด มือด้าน หน้าแห้ง จมูกแดงน้ำมูกย้อย ....มันคือความประทับใจ
แต่ละเมืองมีจุดเด่นที่แตกต่างกันหลากหลาย และมีอาหารทะเลที่สดอร่อย แปลกตา ตลาดสดยามเช้าทำให้เราตื่นเต้นมาก และโดยเฉพาะขนมหวานแสนอร่อยที่สวยงาม.... ฮอกไกโด มีเสน่ห์มาก หากใครคิดถึง เมืองที่โรแมนติก และมีมนตร์ขลังทุกฤดูที่สวยงามแตกต่างกัน รับรองไม่ผิดหวัง เราต้องกลับไปเยือนอีกครั้ง...ในฤดูที่แตกต่างกัน
การเดินทางครั้งนี้ ขอขอบคุณ น้องแอมมี่ Ampmie Natt ผู้ผลักดันให้ฝันของเราเป็นจริง และเดินเคียงข้างกันไป รู้ว่าเหนื่อย หนัก อึด เราภูมิใจมากนะที่เราสองคน อดทน ทำได้ตามเป้าหมาย 98% และเราไม่ป่วย ไม่หลง แม้จะมีทะเลาะกันเบาๆ 55555
ปล. รูปน้อยมาก 4 พันกว่ารูปได้ สวยมาก คัดได้ราว 500 รูป คิดเป็น 12.5% โอเคนะ 5555
สำหรับคนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ภูมิภาคนี้ ขอเตือนว่า เตรียมใจไปพบกับความงดงามที่ตราตรึงได้เลยค่ะ....จริงๆญี่ปุ่นสวยทุกที่ ไม่ว่าจะไปแถบไหน แถมอากาศก็เย็นสบาย การเดินทางก็สะดวกอีกด้วยนะคะ สำหรับแผนการเดินทางจะนำมาลงให้อีกครั้งนะคะ
ตักใส่ชาม ราดนม ราดน้ำแดงได้เลยค่ะ 5555 ชื่อภาพ... เชอรี่แดงน้อย เกล็ดหิมะ
เนินฮาจิมัง-ซากะ เนินที่ว้าว สวยตะโกนจริงๆค่ะ
Hachiman-zaka slope Hakodate, Hokkaido
ยักษ์แดง ที่Jigokudani (Hell Valley)
ยักษ์ฟ้า ที่Jigokudani (Hell Valley)
Jigokudani (Hell Valley) @Noboribetsu
แผนการเดินทาง อย่างละเอียดนะคะ เราค่อนข้างมั่นใจในแพลนนี้ ว่าได้ครบหมดในแถบนี้เลยค่ะ เพราะการเดินทางที่ญี่ปุ่นที่แสนสะดวก และการบริการก็ดีเยี่ยม ค่าใช้จ่ายหลักๆ ก็ประมาณนี้นะคะ 11 วัน 9 คืน 7 เมือง ส่วนตัวว่าก็ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปนะคะ จะแพงก็ตั๋ว ถ้าใครได้ตั๋วถูกก็โชคดีเลยค่ะ
ค่าใช้จ่ายบาท ต่อคน
ค่าตั๋วเครือ่งบิน: 15,000
ค่าที่พัก: 10,145
ค่ารถเดินทาง: 10,000
ค่าเข้าชม: 3,000
รวม 38,145
ชื่อภาพ :สาวน้อยตุ๊กตาหิมะ 5 สี
ไม่เข้าใจว่า ญี่ปุ่น ทำให้ยักษ์ดูน่ารัก อบอุ่นไปได้ยังไง ^^
Advertisement
ฮอกไกโด เราเดินทางลงที่สนามบิน ชิโตเสะ Chitose เป็นสนามบินที่น่ารักมากค่ะ ลงมาก็เจอ โดราเอม่อนตัวโต ยืนยิ้มแฉ่งต้อนรับอยู่เลย
ภายในสนามบิน มุ้งมิ้งน่ารักสุดๆ
จากสนามบินก็เดินทาง เข้าเมืองโดย JR ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที มาถึงช่วงเช้าเลยเข้ามาฝากกระเป๋าไว้ก่อนที่ซัปโปโร เราพักที่โรงแรม Business Inn Norte จากนั้นก็เดินเล่นชมเมือง
วันแรกที่ จะไป ก็คือ หอนาฬิกาเมือง supporo ทำเนียบรัฐบาลเก่า สวน ODORI shop ย่าน tanukikoji & Susukino ซัปโปโร ทีวี ทาวเวอร์ ชมสีสันในเมืองใกล้รถไฟฟ้าและโรงแรม
บริเวณหน้าโรงแรม จุดแรกที่ลื่นล้มกลิ้งกลางหิมะ แล้วมีกลุ่มแม่บ้านมาช่วยพยุงค่ะ 5555
เช้าวันที่ 2 เราตั้งใจ ตื่นเช้าไปตลาดปลานิโจ ค่ะ ไปหาอาหารทะเลสดๆทาน
จากนั้นก็ ไปเยี่ยมชม โรงงานช็อคโกแลต Shiroi koibito park /ศาลเจ้าฮอกไกโด/Mt. Moiwa Ropeway/มหาวิทยาลัย ฮฮกไกโด/JR TOWER ห้าง stellar place, shop Disney ,Tower 38 /สวนนากาชิมะ
ไปเยี่ยมชม โรงงานช็อคโกแลต Shiroi koibito park และกินขนมอร่อยๆที่นี่
เดินเพลินกันจนมืดค่ำ หน้าหนาว ทำให้พระอาทิตย์ตกไว เราจึงรีบบึ่งไป ศาลเจ้าฮอกไกโด ก่อนที่จะปิด ซึ่งจริงๆก็เหมือนปิดแล้ว ทั้งมืดและเงียบมากๆเลยค่ะ
ด้วยความที่มืดค่ำค่อนข้างไว ทำให้เราต้องตัดโปรแกรมตามแผนไปพอสมควรค่ะ เก็บไว้ตอนวันกลับจะกลับมาเก็บตกอีกที ....
เช้าวันที่ 3 เราเดินทางออกจากซัปโปโร เพื่อไป ติดอันดับความโรแมนติก ค่ะ นั่นก็คือ เมือง โอตารุ
โดนแพลนวันนี้ก็เยอะแยะมากมายเช่นเดิม แต่จะได้ครบมั้ยไปลุ้นกันค่ะ
เราจะแบกกระเป๋าไปตลาดเช้า เพื่อกินอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดสดซังคะคุ โอตารุ ตลาดเช้า ร้าน takeda
Marchen Square ร้านขนมหวานต่างๆ/พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี + นาฬิกาไอน้ำ/ร้าน LeTAo กินขนมหวาน/ Otaru Suitengu Shrine ศาล/Kyu Nippon Yesen ชมย่านโกดังเก่า/ถนนซาไกมาจิ Sakaimachi Street &Sushiya Dori ถนนสายซุชิ/กินซูชิ ร้าน masasushi Hanten/Kitaichi Glass Sangokan พิพิธภัณฑ์เครืองแก้ว /ตะเกียงกลางคืนริมคลอง Otaru Canal Park/Otaru City Art Museum/Otaru Tenguyama Ropeway ชมวิว เมือง ขึ้นกระเช้าเทนงุ/wing bay Otaru
จากซัปโปโรไปโอตารุ ราวๆ 50 นาทีโดย JR ระหว่างทางเป็นทะเลสวยงามมากค่ะ
Marchen Square ร้านขนมหวานต่างๆ
Kyu Nippon Yesen ชมย่านโกดังเก่า
มุมมหาชนที่ทุกคนต้องมาถ่ายรุปที่คลองแห่งเมืองโอตารุ ค่ะ ตะเกียงกลางคืนริมคลอง Otaru Canal Park
Kitaichi Glass Sangokan พิพิธภัณฑ์เครืองแก้ว
ชื่อภาพ :3พี่น้องอันปังแมน
กินซูชิ ร้าน masasushi Hanten
วันที่ 4 เราเดินเล่นที่เมืองโอตารุ อีกนิดหน่อยก่อนจะออกเดินทางไปยังเมือง Asahikawa
ด้วยระยะทางที่ไกลขึ้น จากเมืองโอตารุ ไป Asahikawa ราวๆ 2ชม.ครึ่ง ทำให้ไปถึงช่วงบ่ายๆ จึงมีแพลนเที่ยวรอบๆเมืองใกล้ๆ โรงแรม/TOKOWA PARK/สะพาน อาชิ
วันที่ 5 ออกกันเช้าหน่อย เพื่อไปเที่ยวสวนสัตว์ Asahiyama ที่นี่เราชอบมาก มีสัตว์เยอะมากๆ ที่สำคัญมีการเดินโชว์ของฝูงแพนกวินน่ารักมากๆเลย ได้สัมผัสแพนกวินแบบใกล้ชิดมาก เป็นสวนสัตว์ที่เดินเพลินมากจริงๆค่ะ
หลังจากออกจากสวนสัตว์เราก็ต่อไปพักที่เมือง Furano ใช้เวลาเดินทาง ราว 1 ชม. จาก Asahikawa โดยตรงไปยัง Ningle Terrace (ニングルテラス) new furano prince hotel ก่อนเพราอยากไปชม Furano kan kan mura (Winter village)
จากนั้นก็ไปพักที่โรงแรม Furano Hopsด้วยความที่ไปถึงค่ำแล้วเมืองนี้ไม่มีรถโดยสารเราต้องนั่งแทกซี่ ซึ่งเล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกันค่ะ สำหรับค่ารถ แต่โรงแรมคือยิ่งใหญ่ดีงามยันอาหารเช้า แต่เป็นโรงแรมที่ตั้งโดนเด่นอยู่หลังเดียวท่ามกลางหิมะขาวโพลน เหมือนฉากในหนังฆาตกรรมเรื่องนึงเลยค่ะ แบบมันโดดเดี่ยวมาก 555
เช้าวันต่อมา วันที่ 6 เราเดินทางจาก Furanoไป Tomakomai พักที่โรงแรม Toyoko Inn Hokkaido Tomakomai Ekimae โดยตั้งใจว่าจะไปที่
Noboribetsu /ศาล ทารูเมะซัง /พิพิธภัณธ์ไอนุ/นั่งรถไฟไป Noboribetsu ฝากกระเป๋าแวะเที่ยว /น้ำพุร้อน NOBOribetsu+Jigokudani หุบเขานรก/ออนเซนเท้าธรรมชาติ
เราชอบที่นี่มาก ฟิลแตกต่างจากที่อืน แล เอิร์ทโทนได้มูดสุดๆ
จากNoboribetsu ใช้เวลาราว 3 ชม. เรามาถึง เมือง Hakodate ในช่วงบ่ายๆ เช็คอินที่ โรงแรม Hotel Sharoum Inn 2 ซึ่งเมือง Hakodate เป็นเมืองทางตอนใต้สุดของภูมิภาคนี้เลยค่ะ
หิมะไม่ค่อยมีแล้ว มีแต่ลม และลมหนาวมากๆๆๆๆๆๆ
เรามาเดินเล่นและไป ขึ้นกระเช้าชมวิว MT.Hakodate Rope way ส่วนตอนค่ำก็ไป โกดังแดง Kanemori red brick ware house
Hakodate เป็นเมืองที่สวยมากๆ มีที่ทางให้เดินเล่นเยอะแยะมากมาย ล้วนแต่สวยงามไปหมด เพราะเป็น เมืองท่าริมทะเล และยังมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ในอดีตเป็นเมืองหนึ่งที่มีท่าเรือสำหรับเปิดการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังจากยุคแยกประเทศ เมืองฮาโกดาเตะได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก มีย่านที่อยู่อาศัยของชาวต่างประเทศ และป้อมสไตล์ตะวันตก เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคฮอกไกโด มีอาหารทะเลสด และเราได้มาลองตกหมึก กินสดๆกันที่นี่ด้วยค่ะ
แพลน สำหรับเมืองนี้มีดังนี้นะคะ ตลาดปลาเช้า ตกหมึก และกินร้าน Suzuya shokudou ปูถือชามข้าว/ป้อมโกะเรียวคะคุ ป้อมรูปดาว/ย่าน MOTOMOCHI โบสถ์ 3 แห่ง ,Old Public /เนิน HachimanSaka Slope/BAY AREA,โกดังอิฐแดง Kanemori red brick ware house /MT.Hakodate
มาชิมปูทาราบะ ที่ตลาดเช้า ที่เมืองนี้กันค่ะ
จากนั้นก็เดินเล่นชมเมืองด้วยรถราง ย่าน MOTOMOCHI โบสถ์ 3 แห่ง ,Old Public /เนิน HachimanSaka Slope
MT.Hakodate
BAY AREA,โกดังอิฐแดง Kanemori red brick ware house
ตลาดปลาเช้า ตกหมึก และกินร้าน Suzuya shokudou ปูถือชามข้าว
แล้วก็ไป ป้อมโกะเรียวคะคุ ป้อมรูปดาว
เช้าวันก่อนเดินทางกลับ 1 วัน เรากลับไปที่ซัปโปโร เพื่อเก็บตกในเมืองอีกรอบ และช๊อปของที่อยากได้ โดยพักที่ โรงแรม Nest Hotel Sapporo Ekimae เป็นโรงแรมที่ดีมากๆ ประทับใจถึงทุกวันนี้ อาหารโรงแรมดีมาก เยอะมาก อาหารญี่ปุ่นแบบจัดเต็มสุดๆ
หอนาฬิกาเมือง supporo /มหาวิทยาลัย ฮฮกไกโด/ซัปโปโร ทีวี ทาวเวอร์
อาหารที่โรงแรมเนสค่ะ ที่สุดเลย
วันสุดท้ายเตรียมตัวเดินทางกลับ เรามาพักใกล้สนามบินหน่อยค่ะ โรงแรม Hotel Grand Terrace Chitose เพราะกลัวจะต้องเดินทางไกลเลยมาพักที่
Chitose เลยมีบริการส่งที่สนามบินด้วย เพราะต้องบินกลับตั้งแต่เช้า สำหรับการเดินทางครั้งนี้เป็นความทรงจำที่งดงาม อาจจะไม่ได้ใส่รายละเอียด ของการเดินทางต่างๆมากนะ แต่เน้นอวดรูปเสียมากกว่า สำหรับรายละเอียดสามารถสอบถามมาได้เลยนะคะ ยินดีให้คำแนะนำถ้าสามารถเป็นประโยชน์หรือเเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่อยากไปได้ค่ะ
ลาไปก่อนสำหรับรีวิว นี้ ด้วยภาพ หิมะกัดขา กันค่ะ แล้วพบกันใหม่ รีวิวหน้านะคะ เพื่อนๆ ขอบคุณที่อ่านและติดตามกันมาถึงตอนนี้ นะคะ
Memoriesวันวาน
วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 16.29 น.